10 เคล็ดลับ การเลือกโทนสี เฟอร์นิเจอร์ไม้ ส่งผลต่ออารมณ์และการตกแต่งห้องอย่างไร?


การแนะนำ:
ในการออกแบบและตกแต่งภายใน การเลือกโทนสีที่เหมาะกับเฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นสิ่งสำคัญ สีที่คุณเลือกสามารถส่งผลต่ออารมณ์และบรรยากาศของพื้นที่ใช้สอยของคุณได้อย่างมาก
ในคู่มือฉบับสมบูรณ์นี้ เราจะเผย 10 เคล็ดลับสำคัญ เกี่ยวกับวิธีการเลือกสีอ่อนและสีเข้มที่สมบูรณ์แบบสำหรับเฟอร์นิเจอร์ไม้ของคุณ เพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับห้องของคุณ และช่วยปรับปรุงอารมณ์โดยรวมของคุณ


1. เข้าใจทฤษฎีสี:
ก่อนเลือกโทนสีสำหรับเฟอร์นิเจอร์ไม้ จำเป็นต้องเข้าใจพื้นฐานของทฤษฎีสีเสียก่อน สีสามารถแบ่งออกเป็นสามประเภท คือ โทนสีหลักหรือแม่สี โทนสีรอง และโทนสีตติยภูมิ
เมื่อเข้าใจว่าสีมีปฏิสัมพันธ์กันอย่างไร คุณจะสามารถสร้างชุดสีที่กลมกลืนและสมดุลสำหรับเฟอร์นิเจอร์และห้องของคุณได้
หมายเหตุ เป็นความรู้เพิ่มเติม เกี่ยวกับทฤษฏีสี 3 ประเภท คือ
1.1 แม่สี
มีแม่สี 3 สี เป็นสีพื้นฐานสามสี (แดง น้ำเงิน และเหลือง) ที่ไม่สามารถสร้างขึ้นได้จากการผสมสีอื่น
1.2 สีทุติยภูมิ
(เขียว ส้ม และม่วง) เกิดจากการผสมแม่สีสองสีในสัดส่วนเท่าๆ กัน
1.3 สีขั้นที่ 3
เกิดจากการผสมสีหลักกับสีรอง ทำให้เกิดเฉดสีกลาง 6 สี ในการตกแต่งห้อง
ให้ใช้ประเภทสีเหล่านี้เพื่อสร้างโทนสีที่สมดุลและกลมกลืนกัน
รวมสีหลักและสีทุติยภูมิเข้ากับสีตติยภูมิเสริมเพื่อเพิ่มความลึกและความน่าสนใจให้กับพื้นที่ของคุณ


2. เลือกสีที่เหมาะกับจุดประสงค์ของห้องคุณ:
จุดประสงค์ของห้องมีส่วนสำคัญในการกำหนดโทนสีที่เหมาะสมสำหรับเฟอร์นิเจอร์ไม้ของคุณ ตัวอย่างเช่น
โทนสีอ่อนมักจะสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย เหมาะสำหรับห้องนอนหรือห้องนั่งเล่น
ในขณะที่ โทนสีเข้ม สามารถช่วยเสริมลุคที่เป็นทางการ และหรูหรา ซึ่งจะเหมาะสำหรับห้องรับประทานอาหาร หรือสำนักงาน ห้องทำงาน มากกว่า เป็นต้น
3. พิจารณาขนาดของพื้นที่:
ขนาดห้องของคุณสามารถส่งผลต่อการเลือกสีของเฟอร์นิเจอร์ไม้ได้เช่นกัน
สีที่อ่อนลงสามารถทำให้พื้นที่ขนาดเล็กดูใหญ่ขึ้น
ในขณะที่สีเข้มสามารถสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น และเป็นกันเองในห้องที่กว้างขวางมากขึ้น
4. เสริมบรรยากาศของห้องปัจจุบันของคุณ ด้วยการใช้โทนสีเข้าช่วย:
เมื่อเลือกโทนสีของเฟอร์นิเจอร์ไม้ ให้พิจารณาว่าสีเหล่านี้จะช่วยเสริมบรรยากาศที่มีอยู่แล้วในห้องของคุณได้อย่างไร
คุณสามารถจับคู่โทนสีของเฟอร์นิเจอร์ของคุณกับผนัง แบบโทนสีเข้าชุดกัน
หรือ แบบตัด Contrast กัน เพื่อให้ได้ผลที่มีชีวิตชีวาและกระตุ้นสายตา


5. ปรับสมดุลโทนสีอุ่น และโทนเย็น ในห้องของคุณ:
เพื่อให้ได้โทนสีที่กลมกลืนกัน ให้สร้างสมดุลระหว่างโทนสีอบอุ่น (แดง ส้ม และเหลือง)
และ โทนเย็น (น้ำเงิน เขียว และม่วง) ในเฟอร์นิเจอร์ไม้ของคุณ
การผสมโทนสีเหล่านี้สามารถสร้างบรรยากาศที่สบายและเชิญชวนในห้องของคุณ
6. ใช้จิตวิทยาสี:
จิตวิทยาของสีสามารถช่วยให้คุณเข้าใจว่าสีต่างๆ มีอิทธิพลต่ออารมณ์และอารมณ์ของคุณอย่างไร ตัวอย่างเช่น
สีฟ้าสามารถส่งเสริมความเงียบสงบและความสงบ
ในขณะที่ สีแดงสามารถกระตุ้นความรู้สึกของความหลงใหลและพลังงาน
เลือกโทนสีเฟอร์นิเจอร์ไม้ ที่ช่วยสร้างอารมณ์ให้กับพื้นที่ของคุณ
7. ทดลองด้วยการเน้นสี:
การเพิ่มสีสันให้กับเฟอร์นิเจอร์ไม้ของคุณ สามารถเพิ่มความน่าสนใจทางสายตาและสร้างจุดโฟกัสในห้องของคุณ ตัวอย่างเช่น
คุณสามารถ เลือกสีของเบาะเก้าอี้ไม้ด้วยโทนสีที่จัดจ้าน เพื่อตัดกับเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ของคุณ
หรือการเพิ่มหมอนอิงสีสันสดใสบนโซฟาไม้ของคุณ ช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวา และกระตุ้นสายตา มากยิ่งขึ้น เป็นต้น
8. ให้ความสนใจกับแสง:
แสงไฟในห้องสามารถส่งผลต่อโทนสีของเฟอร์นิเจอร์ไม้ได้อย่างมาก
แสงธรรมชาติสามารถทำให้สีดูสว่างขึ้นและสดใสขึ้น
ในขณะที่ แสงประดิษฐ์อาจทำให้รูปลักษณ์ของสีเปลี่ยนไป
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแสงในห้องของคุณ เข้ากับโทนสีที่เลือกของเฟอร์นิเจอร์ไม้ของคุณ
9. พิจารณาประเภทไม้:
ไม้ประเภทต่างๆ อาจมีโทนสีธรรมชาติที่แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อรูปลักษณ์สุดท้ายของเฟอร์นิเจอร์ไม้ของคุณ ตัวอย่างเช่น
ไม้สักหรือไม้โอ๊ค มีโทนสีทองที่ให้ความรู้สึก อบอุ่น
ในขณะที่ไม้เนื้อแข็งไม้วอลนัท มีสีเข้ม ให้ความรู้สึก เข้ม สงบ
เลือกประเภทไม้ที่เข้ากับโทนสีที่คุณต้องการอย่างถูกต้อง
10. อย่ากลัวที่จะทดลอง สุดท้ายขึ้นกับความชอบของผู้อยู่ ผู้ใช้งาน:
สุดท้าย อย่ากลัวที่จะทดลองเฟอร์นิเจอร์ไม้ด้วยโทนสีต่างๆ คุณสามารถเลือกสีใหม่
หรือตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ใหม่เพื่อให้ได้รูปลักษณ์ที่ต้องการ หรือผสมและจับคู่โทนสีต่างๆ
เพื่อให้ได้สัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ของคุณเอง หรืออาจจะเจอโทนที่คุณชอบเป็นการส่วนตัว
บทสรุป:
การเลือกสีอ่อนและสีเข้มสำหรับเฟอร์นิเจอร์ไม้สามารถ ส่งผลต่ออารมณ์และบรรยากาศของห้องได้อย่างมาก
ทำตามคำแนะนำ 10 ข้อด้านบนนี้ คุณสามารถเลือกโทนสีที่เหมาะกับเฟอร์นิเจอร์ไม้ของคุณเพื่อสร้างพื้นที่นั่งเล่นที่กลมกลืน มีสไตล์ และสะดวกสบาย
อย่าลืมคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เช่น วัตถุประสงค์ของห้อง ขนาด โทนสีที่มีอยู่ หรือ ความชอบ รสนิยม ส่วนตัวของคุณ เป็นองค์ประกอบที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง


Leave a comment