13 วิธีการดูแลและข้อห้าม ในการรักษาเฟอร์นิเจอร์ไม้ เพื่อให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

การดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้เฟอร์นิเจอร์ไม้ในบ้านของคุณมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และคงความสวยงาม

ด้านล่างนี้คือ 13 วิธีการ เกี่ยวกับการดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์ไม้ ที่สามารถช่วยให้เฟอร์นิเจอร์ไม้ของคุณอยู่ในสภาพที่ดี และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน:

1. ใช้แผ่นรอง หรือกระจก ช่วยในการป้องกันรอยขีดข่วน ในระยะยาว:

แผ่นรองกันรอยขีดข่วนสามารถป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการขีดข่วนของวัตถุ หรือการใช้งานปกติ

ควรใช้แผ่นรองกันรอยขีดข่วนในพื้นที่ที่มีการใช้งานมาก เช่น บริเวณโต๊ะทำงาน หรือโต๊ะอาหาร เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดจากการใช้งาน

2. กรณีที่มีน้ำ หรือความชื้น เช่น น้ำฝน บนผิวเฟอร์ไม้โดยตรง:

แนะนำให้รีบเช็ดน้ำออกจากผิวเฟอร์นิเจอร์ไม้ออกให้เร็วที่สุด ถึงแม้เฟอร์นิเจอร์ไม้จริง จะไม่มีปัญหาบวมน้ำก็ตาม แต่จะช่วยยืดอายุการใช้งาน และความสวยงามให้ยาวนานมากขึ้น

กรณีเป็นน้ำฝน โดยตรง พยายาม เช็ดให้แห้ง หรือ หากต้องการนำเฟอร์นิเจอร์ไม้ไปตากแดด ควรเลือกช่วงเวลาที่แดดอ่อน ไม่มีแดดจัด ผึ่งผิวเฟอร์นิเจอร์ไม้ ให้แห้งเร็วที่สุด แล้วรีบเก็บเข้าที่

3. การทำความสะอาดด้วยไม้ปัดขนไก่:

ใช้ไม้ปัดขนไก่ในการทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ไม้เพื่อเก็บคราบฝุ่นและเสียงฝุ่นที่ติดอยู่บนพื้นผิวไม้

4. การใช้ผ้าชุบน้ำยาสำหรับทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ไม้โดยเฉพาะ เพื่อทำความสะอาด:

ใช้ผ้าชุบน้ำยาทำความสะอาดพื้นผิวเฟอร์นิเจอร์ไม้ จากนั้นใช้ผ้าชุบสะอาดแบบหมาดๆ เช็ดออกเพื่อล้างคราบสกปรกและคราบน้ำยา

5. การซ่อมแซมรอยขีดข่วนบนเฟอร์นิเจอร์ไม้:

หากเฟอร์นิเจอร์ไม้มีรอยขีดข่วน สามารถใช้ยาขัดรองเท้าที่มีสีใกล้เคียงกับไม้มาถูบริเวณที่มีรอย ซึ่งเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยลดรอยขีดข่วนให้หายไปได้เช่นกัน

6. การแก้ไขเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่หด บิด โก่งตัว หรือสีลอกล่อน:

ปรึกษากับผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่เราซื้อมา และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด หรือให้ผู้ขายเฟอร์นิเจอร์ช่วยในการ PM หรือทำสีใหม่

หรือ ควรขัดสีที่เสียหายออกให้ถึงเนื้อไม้ จากนั้นไสผิวไม้เรียบแล้วค่อยลงสีใหม่ โดยทาสี 2-3 ชั้น และทิ้งให้แห้งก่อนประมาณ 6 ชั่วโมง

7. การป้องกันปลวกและมอด:

เพื่อป้องกันปลวกและมอดไม่ให้ทำลายเนื้อไม้ ควรใช้น้ำยาป้องกันแมลงกินไม้ให้ทั่วก่อนทาสี

8. ห้ามวางเฟอร์นิเจอร์ในบริเวณที่มีความชื้น แสงแดดจัด หรือใกล้กับวัสดุที่ร้อนจัด ความชื้นจัด:

แสงแดดที่จัดอาจทำให้เฟอร์นิเจอร์ไม้สีเสื่อมหรือเนื้อไม้เสียหาย ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการวางเฟอร์นิเจอร์ในบริเวณที่มีแสงแดดตรงๆ

หรือ การวางเฟอร์นิเจอร์ไม้ใกล้กับวัสดุที่มีอุณหภูมิสูงหรือร้อนจัด เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าหรือเตาอุตสาหกรรม อาจทำให้เนื้อไม้เสียหายหรือเบี้ยวงอได้

9. เพิ่มการระบายอากาศภายในบ้าน:

เปิดประตูและหน้าต่างเพื่อให้ภายในบ้านมีการหมุนเวียนอากาศและลดความชื้น ทำให้ไม้ไม่เปียกชื้นเกินไป

10. ห้ามวางเครื่องดื่ม อาหาร ที่ร้อนจัด หรือเย็นจัด บนเฟอร์นิเจอร์ไม้โดยตรง:

วางแก้วน้ำ จาน หม้อ ที่ร้อนจัด เย็นจัด หรือของแข็งโดยตรงบนเฟอร์นิเจอร์ไม้อาจทำให้เกิดคราบน้ำ รอยดำ ผิวเฟอร์นิเจร์ไม้อาจจะเกิดการเสียหาย หรือความชื้นที่ทำให้ผิวไม้เสียหาย ควรใช้ที่วางแก้ว ผ้าสำหรับวางหม้อ โดยเฉพาะเป็นต้น

11. ห้ามใช้น้ำยาที่มีสารเคมี หรือวัสดุที่แข็งมาทำความสะอาด:

การใช้สารเคมีที่เข้มข้นหรือผ้าเปียกในการทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ไม้อาจทำให้พื้นผิวเสียหายหรือแตกต่างได้ ควรใช้ผ้าที่เปียกเพียงพอ และไม่มีสารเคมีอันตราย

12. ห้ามวางของที่มีน้ำหนักมากลงบนเฟอร์นิเจอร์ไม้:

หากวางวัตถุหนักหรือของที่มีน้ำหนักมากที่เฟอร์นิเจอร์ไม้ เช่น สิ่งตกแต่งหรือของเล่น อาจทำให้ไม้เบี้ยวงอหรือเสียหายได้ ควรระมัดระวังในการวางของบนเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่มีน้ำหนักเพื่อปกป้องเฟอร์นิเจอร์ไม้

13. ห้ามเคลื่อนย้ายด้วยวิธีลากหรือผลัก:

เพื่อป้องกันการเบียดเสียงและการเสียหายต่อเฟอร์นิเจอร์ไม้ ควรใช้วิธียกและเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ไม้อย่างระมัดระวัง

สรุป

เมื่อทำตามข้อแนะนำเหล่านี้เพื่อดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์ไม้ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน จะช่วยให้เฟอร์นิเจอร์ไม้ในบ้านของคุณคงความสวยงามและคุณภาพไว้ได้ในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม ควรจำไว้ว่าการดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นเรื่องต่อเนื่อง อาจจะต้องปรึกษากับผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่เราซื้อมา และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด