ออกแบบห้องครัว: 8 วิธีที่สวยงามและมีประสิทธิภาพด้วยอุปกรณ์ Fitting
ออกแบบห้องครัว: 8 วิธีที่สวยงามและมีประสิทธิภาพด้วยอุปกรณ์ Fitting
บทนำ
เมื่อคุณต้องการ ออกแบบห้องครัว ให้สวยและเป็นระเบียบ การเลือกใช้ "Fitting" หรือ อุปกรณ์ชุดครัว ที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในครัวบิ้วอินจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณสามารถทำได้ ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 8 อุปกรณ์ที่จะช่วยให้การ ออกแบบครัว ของคุณสวยงาม และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
บทความหลัก
1. อุปกรณ์สำหรับจัดเก็บ (Storage Fitting):
การจัดเก็บในครัวเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นอาหาร อุปกรณ์ทำอาหาร หรือของใช้ในครัวต่างๆ การมีระบบตะแกรงที่ดีจะช่วยให้คุณสามารถจัดเก็บของได้อย่างเป็นระเบียบ และทำให้คุณสามารถหาของที่ต้องการได้ง่ายขึ้น
2. รางลิ้นชักและถาดใส่ของในลิ้นชัก (Drawers & Drawer Inserts):
ลิ้นชักที่ดีจะช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงของในตู้ได้ง่ายขึ้น และถาดใส่ของในลิ้นชักจะช่วยให้คุณสามารถจัดเก็บของในลิ้นชักได้อย่างเป็นระเบียบ
3. ตู้ลอยและอุปกรณ์สำหรับตู้ลอย (Hanging Cabinets & Accessories):
ตู้ลอยเป็นส่วนที่สำคัญในการ ออกแบบครัว ไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บของ หรือการแสดงของที่คุณมี การมีอุปกรณ์ที่ดีจะช่วยให้คุณสามารถใช้งานตู้ลอยได้มากขึ้น
4. อุปกรณ์ราวแขวนและอุปกรณ์เก็บของแบบติดเข้าผนัง (Railing & Wall Mount Storage Systems):
การใช้พื้นที่ผนังในครัวเป็นสิ่งที่คุณควรพิจารณา ไม่ว่าจะเป็นการแขวนของ หรือการติดตั้งชั้นวางของ การใช้พื้นที่ผนังจะช่วยให้คุณสามารถใช้พื้นที่ในครัวได้มากขึ้น
5. ถังขยะ (Waste Bins):
ถังขยะที่ดีจะช่วยให้คุณสามารถจัดการกับขยะในครัวได้ง่ายขึ้น และทำให้ครัวของคุณดูเป็นระเบียบมากขึ้น
6. ขาโต๊ะ และอุปกรณ์เสริมพื้นโต๊ะ (Table Legs & Extensions):
โต๊ะที่ดีจะช่วยให้คุณสามารถทำงานในครัวได้มากขึ้น และอุปกรณ์เสริมพื้นโต๊ะจะช่วยให้คุณสามารถใช้พื้นที่ทำงานได้มากขึ้น
7. ตะแกรงปิดช่องระบายอากาศ (Ventilations):
การมีระบายอากาศที่ดีในครัวเป็นสิ่งที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันความร้อน หรือการป้องกันกลิ่น การมีตะแกรงปิดช่องระบายอากาศที่ดีจะช่วยให้คุณสามารถทำงานในครัวได้สบายขึ้น
8. อุปกรณ์เกี่ยวกับหน้าบาน (Frontal Covers):
หน้าบานที่ดีจะช่วยให้ครัวของคุณดูสวยงามมากขึ้น และอุปกรณ์เกี่ยวกับหน้าบานจะช่วยให้คุณสามารถใช้งานหน้าบานได้ง่ายขึ้น
ลำดับ | ประเภทอุปกรณ์ Fitting | คำอธิบาย |
---|---|---|
1 | อุปกรณ์สำหรับจัดเก็บ (Storage Fitting) | ระบบตะแกรงต่างๆภายในตู้ เช่น ตะแกรงอเนกประสงค์สำหรับจัดเก็บภาชนะ, ตะแกรงเข้ามุมครึ่งวงกลม, ตะแกรงใส่ขวดเครื่องปรุง, ตะแกรงสำหรับตู้สูง |
2 | รางลิ้นชักและถาดใส่ของในลิ้นชัก (Drawers & Drawer Inserts) | ระบบที่ทำให้ลิ้นชักทำงานได้อย่างสมบูรณ์ เช่น ระบบรางลิ้นชักแบบซอฟท์โคลส, ถาดใส่ช้อนส้อมและอุปกรณ์การใช้งานต่างๆ |
3 | ตู้ลอยและอุปกรณ์สำหรับตู้ลอย (Hanging Cabinets & Accessories) | ส่วนที่ทำให้การใช้งานในตู้ลอยใช้งานได้สะดวกมากขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีของเฮเฟเล่ |
4 | อุปกรณ์ราวแขวนและอุปกรณ์เก็บของแบบติดเข้าผนัง (Railing & Wall Mount Storage Systems) | อุปกรณ์ราวแขวนและอุปกรณ์เก็บของแบบติดเข้าผนัง เพื่อจัดเก็บอุปกรณ์ที่ใช้เป็นประจำให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย |
5 | ถังขยะ (Waste Bins) | ถังขยะที่ทำให้การใช้งานครัวออกมาสะดวกสบาย แลดูเป็นระเบียบเรียบร้อย ส่วนใหญ่จะติดตั้งไว้ใต้อ่างล้างจานหรือข้างๆเตา |
6 | ขาโต๊ะ และอุปกรณ์เสริมพื้นโต๊ะ (Table Legs & Extensions) | ขาโต๊ะ และอุปกรณ์เสริมพื้นโต๊ะ ที่ช่วยให้ห้องครัวขนาดเล็กมีพื้นที่ทำอาหารมากขึ้น |
7 | ตะแกรงปิดช่องระบายอากาศ (Ventilations) | ตะแกรงปิดช่องระบายอากาศ เพื่อป้องกันแมลงเข้าไปในช่องที่ต้องมีการระบายอากาศ |
8 | อุปกรณ์เกี่ยวกับหน้าบาน (Frontal Covers) | อุปกรณ์เกี่ยวกับหน้าบาน เช่น มือจับรูปแบบต่างๆ, ระบบบานเลื่อนขึ้นลง, ระบบบานเลื่อนซ้ายขวา |
บทสรุป
การ ออกแบบครัว ไม่ใช่เรื่องยากถ้าคุณมีอุปกรณ์ที่ดี ด้วย 8 อุปกรณ์ที่เราแนะนำในบทความนี้ คุณจะสามารถ ออกแบบครัว ให้สวยงาม และเป็นระเบียบได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นมืออาชีพ หรือคนที่เพิ่งเริ่ม ออกแบบครัว คุณจะสามารถทำให้ครัวของคุณดูสวยงาม และมีประสิทธิภาพมากขึ้น.
การเลือก 8 วัสดุ Top เคาน์เตอร์ครัว ให้เหมาะสมกับบ้านของคุณ
การเลือก 8 วัสดุ Top เคาน์เตอร์ครัว
ให้เหมาะสมกับบ้านของคุณ
เคาน์เตอร์ครัว เป็นส่วนสำคัญของห้องครัว เป็นส่วนสำคัญของครัวที่ต้องรองรับ ทุกขั้นตอนการทำอาหาร ตั้งแต่การตัด การสับ ไปจนถึงการทุบ
ด้วยเหตุนี้จึงควรมีความแข็งแรง ทนความร้อน และทนทานต่อคราบ กลิ่น และควัน
ด้วยตัวเลือกที่ค่อนข้างหลากหลาย การเลือกเคาน์เตอร์ครัวที่เหมาะสมอาจเป็นเรื่องที่ต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษาข้อมูล
ดังนั้น ในบทความนี้ เราจะเจาะลึก 8 วัสดุเคาน์เตอร์ครัวยอดนิยม แต่ละประเภท ได้แก่ หินแกรนิต หินอ่อน หินเทียม สแตนเลส ไม้ ลามิเนต กระเบื้อง และคอนกรีต
โดยการเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
1. เคาน์เตอร์หินแกรนิต
หินแกรนิตเป็นวัสดุธรรมชาติที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในเคาน์เตอร์ครัว ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านความแข็งแรง ทนทาน และรูปลักษณ์ที่หรูหรา ทนทานต่อการใช้งานหนักและทนต่อการขีดข่วน จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับครัวไทย
อย่างไรก็ตามกระเบื้องแกรนิตโต้ ต้องใช้ช่างผู้ชำนาญในการติดตั้ง
2. เคาน์เตอร์หินอ่อน
เคาน์เตอร์หินอ่อนทำจากหินธรรมชาติ ให้ความรู้สึกหรูหราและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ลวดลายตามธรรมชาติทำให้แต่ละชิ้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และสามารถทนความร้อนได้สูง
อย่างไรก็ตาม หินอ่อนมีรูพรุน ซึ่งหมายความว่าสามารถเกิดคราบได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อสัมผัสกับน้ำปริมาณมาก ไม่ทนต่อกรดหรือด่างและเกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย
จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับครัวเบาหรือครัวสไตล์ตะวันตก การทาน้ำยากันซึมเป็นประจำสามารถช่วยป้องกันหินอ่อนจากความเสียหายจากน้ำได้
3. เคาน์เตอร์หินเทียม
เคาน์เตอร์หินเทียมทำจากส่วนผสมของโพลิเมอร์ อะคริลิก เรซิน หรือแก้วรวมกับหิน พวกมันไม่มีรูพรุน หมายความว่าน้ำไม่สามารถซึมผ่านได้ง่าย
เคาน์เตอร์หินเทียมมีอายุการใช้งานยาวนานและทนทานต่อกรดและด่าง ทำให้ดูแลรักษาและทำความสะอาดได้ง่าย
อย่างไรก็ตาม หินชนิดนี้ อาจมีข้อจำกัดในเรื่องของความทนทานต่อความร้อน
4. เคาน์เตอร์สแตนเลส
เคาน์เตอร์สแตนเลสสร้างรูปลักษณ์ที่ทันสมัยและร่วมสมัยในห้องครัว มีความทนทาน ทนความร้อน และทำความสะอาดง่าย
อย่างไรก็ตามสามารถขีดข่วนได้ง่ายโดยเฉพาะเมื่อตัดด้วยมีด
5. เคาน์เตอร์ไม้
เคาน์เตอร์ไม้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการความรู้สึกอบอุ่นและเป็นธรรมชาติในห้องครัว ลวดลายและสีของไม้สร้างบรรยากาศที่ชวนให้นึกถึงธรรมชาติ
อย่างไรก็ตาม เคาน์เตอร์ไม้นั้นไวต่อรอยขีดข่วนจากของมีคมที่ใช้ในครัว นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่จะสะสมแบคทีเรียและสิ่งสกปรกเมื่อเวลาผ่านไป และอาจแตกหรือสลายตัวเมื่อสัมผัสกับน้ำเป็นระยะเวลานาน
ซึ่งการขัด เคลือบไม้ ในระยะเวลาทุกๆ 2-3 ปี จะสามารถช่วยรักษาความทนทานของไม้ได้
6. เคาน์เตอร์ลามิเนต
เคาน์เตอร์ลามิเนตเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับครัวสไตล์วินเทจ ทำจากวัสดุสังเคราะห์เคลือบพลาสติกที่ค่อนข้างง่ายในการทำความสะอาดและบำรุงรักษา นอกจากนี้ยังเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด
อย่างไรก็ตาม พื้นผิวลามิเนตเป็นรอยและบิ่นได้ง่าย เมื่อเสียหายก็ยากที่จะซ่อมแซม
7. เคาน์เตอร์กระเบื้อง
เคาน์เตอร์กระเบื้องได้รับความนิยมมากขึ้นเนื่องจากมีการออกแบบและสีสันที่หลากหลาย สามารถเลือกลวดลาย ให้ดูเหมือนไม้หรือหินอ่อนและสามารถปรับแต่งให้เข้ากับการออกแบบของห้องครัวได้ มีความทนทาน ราคาไม่แพง และทำความสะอาดง่าย
อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มที่จะแตกหักได้หากกระแทกแรง และอาจทำความสะอาดได้ยากเนื่องจากยาแนว
8. เคาน์เตอร์คอนกรีต
เคาน์เตอร์คอนกรีตเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการเคาน์เตอร์ครัวที่ไม่เหมือนใคร คอนกรีตสามารถขึ้นรูปเป็นรูปทรงต่างๆ และขัดเงาได้
อย่างไรก็ตาม อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานหนัก และอาจต้องทำการซ่อมแซมใหม่ทุกๆ 2-3 ปี
บทสรุป
การเลือกเคาน์เตอร์ครัวที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างห้องครัวที่ใช้งานได้จริงและสวยงาม วัสดุแต่ละชนิดมีข้อดีและข้อเสีย และสิ่งสำคัญคือต้องชั่งน้ำหนักกับความต้องการและงบประมาณของคุณ
เมื่อเข้าใจข้อดีและข้อเสียของวัสดุท็อปเคาน์เตอร์แต่ละชนิด คุณจะสามารถตัดสินใจได้อย่างเหมาะสมมากยิ่งขึ้น
10 ขั้นตอนการวางแผนให้ได้ ครัวไม้จริง ที่สวยงามและคุ้มค่าที่สุด
10 ขั้นตอนการวางแผนให้ได้ ครัวไม้จริง ที่สวยงามและคุ้มค่าที่สุด
ครัวนับเป็นเป็นส่วนเสริมที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากในทุกๆบ้าน เป็นการเพิ่มความอบอุ่นภายในบ้าน เพิ่มเอกลักษณ์ และเพิ่มความสะดวกสบายให้กับทุกคนในบ้าน
อย่างไรก็ตาม การวางแผนสำหรับครัวไม้จริง อาจเป็นเรื่องน่ากังวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณไม่คุ้นเคยกับกระบวนการนี้ ในบทความนี้ เราจะสรุป 10 ขั้นตอนที่จะช่วยให้คุณวางแผนสำหรับห้องครัวไม้จริงที่ทั้งสวยงามและหลากหลาย
ว่าควรพิจารณา องค์ประกอบสำคัญอะไรบ้าง ได้แก่
.
ขั้นตอนที่ 1: กำหนดงบประมาณของคุณ
ขั้นตอนแรกในการวางแผนสำหรับครัวไม้จริงคือการกำหนดงบประมาณของคุณ พิจารณาค่าวัสดุ ค่าแรง และค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ไม้จริงอาจมีราคาแพงกว่าวัสดุอื่นๆ
ดังนั้นการตั้งงบประมาณตามความเป็นจริงจึงเป็นเรื่องสำคัญ คุณสามารถพิจารณาตัวเลือกทางการเงินหรือปรับขนาดคุณสมบัติบางอย่างให้เหมาะกับงบประมาณของคุณ
.
ขั้นตอนที่ 2: ประเมินความต้องการของคุณ
ประเมินความต้องการและวิธีการใช้ครัวของคุณ คุณเลี้ยงรับรองแขกบ่อยไหม? คุณเป็นนักทำอาหารตัวยงหรือไม่? คุณมีครอบครัวใหญ่หรือไม่? การออกแบบห้องครัวของคุณควรตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคุณ
พิจารณาพื้นที่จัดเก็บที่คุณต้องการ จำนวนเครื่องใช้ไฟฟ้าที่คุณต้องการ และสไตล์การทำอาหารของคุณ สิ่งนี้จะช่วยคุณกำหนดรูปแบบและคุณสมบัติที่คุณต้องการในครัวไม้จริงของคุณ
.
ขั้นตอนที่ 3: เลือกชนิดของไม้ที่ใช้ในการทำครัว
เลือกให้เหมาะกับสไตล์และงบประมาณของคุณมากที่สุด ว่าชอบไม้ชนิดไหน ที่จะนำมาทำตู้ครัวและเคาน์เตอร์ ได้แก่ ไม้สัก ไม้เนื้อแข็ง ไม้โอ๊ค แต่ละสายพันธุ์จะมีสี พื้นผิว และลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง
.
ขั้นตอนที่ 4: เลือกรูปแบบเคาน์เตอร์ ตู้ลอย แบบบานเปิด ให้ลงตัว
เลือกรูปแบบและขนาด ของครัว ให้ตอบโจทย์การใช้งาน เลือกให้มีขนาดเหมาะสมลงตัวกับพื้นที่ รวมถึงเหมาะกับการใช้งานของจำนวนสมาชิกในครอบครัวได้อีกด้วย
.
ขั้นตอนที่ 5: วางแผนสำหรับเค้าโครงครัวของคุณ ให้มี Format แบบและขนาด ที่ลงตัว
วางแผนรูปแบบตู้ของคุณ พิจารณาขนาดและรูปร่างของห้องครัวของคุณ รวมถึงความต้องการในการจัดเก็บของคุณด้วย
เค้าโครงตู้ที่เป็นที่นิยม ได้แก่ ห้องครัวรูปตัว U รูปตัว L หรือรูปตัว I เป็นต้น นอกจากนี้ ให้พิจารณาการจัดวางเครื่องใช้ไฟฟ้า
และคุณสมบัติพิเศษใดๆ ที่คุณต้องการเพิ่ม เช่น ตู้หรือชั้นวางไวน์ เป็นต้น
.
ขั้นตอนที่ 6: เลือกวัสดุเคาน์เตอร์ของคุณ
เลือกวัสดุเคาน์เตอร์ของคุณ วัสดุท็อปเคาน์เตอร์ยอดนิยมสำหรับครัวไม้จริง ได้แก่ หินแกรนิต ควอตซ์ และไม้จริง วัสดุแต่ละชนิดมีคุณสมบัติและคุณประโยชน์เฉพาะตัว เลือกวัสดุที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และงบประมาณของคุณ
สามารถเข้าไปอ่าน เพิ่มเติม เกี่ยวกับ การเลือก 8 วัสดุ Top เคาน์เตอร์ครัว ให้เหมาะสมกับบ้านของคุณ ได้ที่ Link นี้เลย
.
ขั้นตอนที่ 7: เลือกฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์เสริม หรือ Fitting ของคุณ
เลือกฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์เสริม Fitting ของคุณ ซึ่งรวมถึงที่จับ ลูกบิด บานพับ รางลิ้นชัก และคุณสมบัติเพิ่มเติมใดๆ เช่น ชั้นวางเครื่องเทศ
เลือกฮาร์ดแวร์ อุปกรณ์ครัว รวมถึง Fitting ที่เสริมความสวยงามกับการออกแบบโดยรวม และเพิ่มฟังก์ชันการทำงานให้กับครัวของคุณได้มากยิ่งขึ้น
.
ขั้นตอนที่ 8: พิจารณาแสงสว่าง ในพื้นที่ครัวของคุณ
พิจารณาแสงสว่างของคุณ แสงสว่างเป็นองค์ประกอบสำคัญของห้องครัว และครัวไม้จริงก็ไม่มีข้อยกเว้น พิจารณาตำแหน่งและประเภทของไฟที่เหมาะกับการออกแบบห้องครัวของคุณมากที่สุด
ซึ่งอาจรวมถึงไฟเหนือศีรษะ ไฟส่องงาน และไฟเน้นเสียง คุณอาจต้องการพิจารณาตัวเลือกที่ประหยัดพลังงาน เช่น ไฟ LED
.
ขั้นตอนที่ 9: พิจารณา พื้นหลัง พื้นที่โดยรอบของครัว เช่น พื้นหรือผนังกระเบื้อง ผนังปูน พื้นปูน ให้เหมาะสมลงตัวกับครัวของคุณ
วัสดุแต่ละชนิดมีคุณประโยชน์เฉพาะตัว มีสีสรรค์เข้มอ่อนในแต่ละพื้นที่ ที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกปรับองค์ประกอบ ในการออกแบบครัวโดยรวมให้เหมาะกับพื้นที่บ้านของคุณ
จึงเป็นสิ่งที่ดีๆ และยิ่งช่วยเพิ่มความสวยงาม ความทนทานลงตัวของครัว ให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
.