คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ในการเลือกไม้สำหรับผลิตโต๊ะกลมกินข้าวหรือเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่มีคุณภาพสูงและเหมาะสมกับทุกการใช้งาน โรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ของเรามีหลากหลายชนิดของไม้ให้เลือก ตามความต้องการและงบประมาณของลูกค้า ด้วยประสบการณ์กว่า 23 ปี ในการผลิตและออกแบบเฟอร์นิเจอร์ไม้ เรามุ่งเน้นที่คุณภาพสูงสุดและการบริการที่เป็นเลิศ ดังนี้:

1. ไม้สักเก่า

• คุณสมบัติ: ไม้สักเก่ามีความทนทานสูงต่อปัญหาปลวกและการยืดหดตัวของไม้ มีลายไม้ที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ ให้ความรู้สึกหรูหราและมีราคาที่สูง แต่คุ้มค่ากับการลงทุน เนื่องจากสามารถใช้งานได้ยาวนานนับสิบปี
• ราคา: สูง

2. ไม้เนื้อแข็งเก่า (ไม้แดง/ไม้เต็ง/ไม้รังหรือไม้เปา)

• คุณสมบัติ: เหมาะสำหรับใช้งานจริง มีโทนสีเข้มดำแดง ทนทานและมีความคงทนสูง ราคาถูกกว่าไม้สัก
• ราคา: ปานกลาง

3. ไม้โอ๊ค

• คุณสมบัติ: ราคาสูงกว่าไม้สักเล็กน้อย มีลายไม้สวยและโทนสีอ่อนสบายตา เหมาะสำหรับการตกแต่งที่ต้องการความหรูหรา และต้องการโทนสว่าง
• ราคา: ราคาสูงกว่าไม้สักเก่าเล็กน้อย

4. ไม้แอช

• คุณสมบัติ: ราคาถูกกว่าไม้สักและไม้โอ๊ค มีลายไม้เป็นระเบียบน้อยกว่าไม้โอ๊ค แต่ยังคงให้โทนสีอ่อนที่สบายตา
• ราคา: ปานกลาง

5. ไม้ยางพารา

• คุณสมบัติ: เหมาะสำหรับการนำไปใช้งานในราคาไม่สูงมาก มีความยืดหยุ่นในการทำสีได้หลากหลาย
• ราคา: ต่ำ

6. ไม้เรดแกรนดิส

• คุณสมบัติ: ราคาใกล้เคียงกับไม้เนื้อแข็ง มีลายไม้น้อยแต่ใช้งานกลางแจ้งได้ดี ทนทานต่อสภาพอากาศ ใช้งานกลางแจ้งได้ดี
• ราคา: ปานกลาง

บริการของทางโรงงาน

เรามีทีมออกแบบมืออาชีพพร้อมให้คำปรึกษาฟรี มีบริการวัดหน้างานก่อนการผลิตจริง และทีมช่างติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ที่มีความเชี่ยวชาญ นอกจากนี้ เรายังมีการรับประกันสินค้า 1 ปีเต็ม เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพและการบริการของเรา

การเลือกขนาดโต๊ะกลมไม้เพื่อรองรับจำนวนสมาชิกและการใช้งานในแต่ละโอกาสนั้นสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความสะดวกสบายและบรรยากาศที่เหมาะสม ต่อไปนี้คือการขยายความเกี่ยวกับขนาดโต๊ะกลมไม้และจำนวนที่นั่งที่เหมาะสมเพื่อตอบสนองต่อความต้องการและการใช้งานที่หลากหลาย:

ขนาดโต๊ะและจำนวนที่นั่ง

• 2 ที่นั่ง (Ø ประมาณ 76 cm.)
  • การใช้งาน: เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่จำกัด เช่น คอนโดมิเนียมหรือเป็นโต๊ะข้างเตียง สามารถใช้เป็นโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงานขนาดเล็กได้เช่นกัน
  • ความเหมาะสม: ดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่ยังคงความอบอุ่นและความสะดวกในการใช้งาน
• 4 ที่นั่ง (Ø ประมาณ 90-100 cm.)
  • การใช้งาน: เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็กหรือการใช้งานในพื้นที่จำกัด อย่างเช่นในครัวแบบเปิดหรือพื้นที่รับประทานอาหารที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น
  • ความเหมาะสม: ช่วยให้การสื่อสารระหว่างมื้ออาหารเป็นไปอย่างใกล้ชิดและส่วนตัว
• 6 ที่นั่ง (Ø ประมาณ 120 cm.)
  • การใช้งาน: ให้พื้นที่เพียงพอสำหรับการวางจานอาหารและการเคลื่อนไหว สามารถใช้ในการรับประทานอาหารประจำวันหรือการจัดเลี้ยงในวงเล็ก
  • ความเหมาะสม: มอบความรู้สึกกว้างขวางและสะดวกสบายในการใช้งาน รองรับกิจกรรมร่วมกันได้หลากหลาย
• 8 ที่นั่ง (Ø ประมาณ 140 cm.)
  • การใช้งาน: เหมาะสำหรับการรับประทานอาหารกลุ่มใหญ่ ทั้งในโอกาสพิเศษหรือการรวมตัวของครอบครัว
  • ความเหมาะสม: ให้ความรู้สึกกว้างขวางและเอื้ออำนวยต่อการสนทนาและการแบ่งปันมื้ออาหาร
• 10 ที่นั่ง (Ø ประมาณ 160 cm.)
  • การใช้งาน: เหมาะสำหรับการจัดเลี้ยงและการรวมตัวของกลุ่มคนจำนวนมาก ให้พื้นที่อย่างเพียงพอสำหรับการจัดวางและการใช้งาน
  • ความเหมาะสม: โต๊ะขนาดนี้สามารถเป็นจุดศูนย์กลางของการรวมตัว สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง
• 12 ที่นั่ง (Ø ประมาณ 180-200 cm.)
  • การใช้งาน: โต๊ะขนาดใหญ่ที่เหมาะสำหรับการรวมกลุ่มครอบครัวขนาดใหญ่หรือการจัดเลี้ยง
  • ความเหมาะสม: ให้ความรู้สึกหรูหราและมีมิติ สามารถเป็นจุดเด่นในห้องรับประทานอาหารหรือห้องโถงใหญ่

Remark: ขนาดอาจแตกต่างจากนี้ จากรูปแบบขาแต่ละแบบ และความจำเป็นในการใช้งานจริง ซึ่งทีมงานออกแบบมืออาชีพของเรา พร้อมให้คำปรึกษา ในการออกแบบ และปรับตามพื้นที่ใช้งานจริงของคุณ

การเลือกรูปแบบขาสำหรับโต๊ะกลมไม้ในการรองรับการใช้งานที่หลากหลายนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมันไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับความสวยงามเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความทนทานและความเหมาะสมกับสไตล์การตกแต่งของห้อง ทั้งขาไม้และขาเหล็กมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ซึ่งควรพิจารณาอย่างรอบคอบ:

ขาไม้

• ข้อดี: ขาไม้ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ สามารถทำให้เข้ากับโต๊ะไม้ได้อย่างลงตัว สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเชิญชวน นอกจากนี้ยังเสริมสร้างความแข็งแรงและความทนทาน เหมาะกับการใช้งานในระยะยาว
• ข้อเสีย: อาจต้องการการดูแลรักษามากขึ้นเมื่อเทียบกับขาเหล็ก โดยเฉพาะในเรื่องของความชื้นและการเกิดรอยขีดข่วน

ขาเหล็ก

• ข้อดี: ขาเหล็กมีความทนทานสูงต่อสภาพแวดล้อมและการใช้งานที่หนักหน่วง รวมถึงความชื้นและการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ สามารถออกแบบให้มีลักษณะทันสมัยและสะอาดตา ช่วยให้ห้องดูโมเดิร์นและมีสไตล์
• ข้อเสีย: อาจไม่เข้ากับการตกแต่งที่ต้องการความอบอุ่นและเป็นธรรมชาติเท่ากับขาไม้ และอาจต้องการการดูแลรักษาเพื่อป้องกันสนิม

คำแนะนำจากนักออกแบบโต๊ะกลมไม้ของโรงงาน

1. การพิจารณาสไตล์และการใช้งาน: ก่อนเลือกแบบขาโต๊ะ ควรพิจารณาถึงสไตล์การตกแต่งของห้องและการใช้งาน เพื่อให้โต๊ะกลมไม้เข้ากับบรรยากาศโดยรวม
2. ความทนทานและการดูแลรักษา: พิจารณาถึงความต้องการด้านความทนทานและความง่ายในการดูแลรักษา ขาเหล็กอาจเหมาะกับสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง ในขณะที่ขาไม้อาจเหมาะกับบรรยากาศที่ต้องการความอบอุ่น
3. การปรับแต่ง: หากต้องการความเฉพาะเจาะจงในสไตล์และการใช้งาน การปรับแต่งขาโต๊ะอาจเป็นทางเลือกที่ดี ทั้งนี้ทางโรงงานสามารถให้คำปรึกษาและออกแบบขาโต๊ะที่ตอบโจทย์ทั้งในเรื่องของความสวยงามและความทนทาน

การคำนวณขนาดที่เหมาะสมสำหรับห้องครัว, ห้องกินข้าว, หรือห้องโถงเพื่อการวางโต๊ะกลมไม้หรือโต๊ะกลมกินข้าวไม้นั้นจำเป็นต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย เพื่อให้โต๊ะและพื้นที่รอบๆ มีความสัมพันธ์กันอย่างลงตัว ทั้งนี้เพื่อสร้างความสะดวกสบาย ไม่แคบหรือกว้างเกินไป และยังคงความสวยงามและความประโยชน์ใช้สอยได้สูงสุด:

1. การวัดพื้นที่ใช้งาน

• วัดขนาดห้อง: เริ่มต้นด้วยการวัดขนาดของห้องที่จะวางโต๊ะ เพื่อทราบพื้นที่ทั้งหมดที่มีให้ใช้งาน
• พิจารณาพื้นที่เดิน: คำนึงถึงพื้นที่เดินรอบโต๊ะ แนะนำให้มีระยะห่างจากขอบโต๊ะไปยังผนังหรือเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ อย่างน้อย 90 ซม. เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนที่

2. การคำนวณขนาดโต๊ะ

• ขนาดโต๊ะสำหรับ 6 ที่นั่ง: Ø ประมาณ 120 ซม. เหมาะสำหรับห้องขนาดกลางที่ต้องการความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น
• ขนาดโต๊ะสำหรับ 8 ที่นั่ง: Ø ประมาณ 140 ซม. สำหรับห้องขนาดใหญ่หรือห้องโถงที่ต้องการรองรับผู้คนมากขึ้น

3. คำแนะนำเพิ่มเติมจากนักออกแบบ

• การเลือกโต๊ะ: พิจารณาโต๊ะที่มีขนาดเหมาะสมกับการใช้งานและพื้นที่ อย่าเลือกโต๊ะที่ใหญ่เกินไปจนทำให้ห้องดูแคบ หรือเล็กเกินไปจนดูไม่สมดุล
• การวางโต๊ะ: วางโต๊ะในตำแหน่งที่เป็นศูนย์กลางของห้องหรือพื้นที่ใช้สอย เพื่อสร้างความสมดุลและความสวยงามในห้อง
• การเลือกเก้าอี้: เลือกเก้าอี้ที่มีขนาดและสไตล์ที่เข้ากับโต๊ะ คำนึงถึงความสบายและความเหมาะสมกับผู้ใช้งาน

โต๊ะกลมไม้สัก และโต๊ะกลมกินข้าวไม้สัก ที่ทำจากไม้สักเก่านั้นมีข้อดีหลายประการที่ทำให้เป็นที่นิยมและเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการใช้งานในห้องครัว, ห้องกินข้าว, หรือห้องโถง ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นของไม้สัก โต๊ะเหล่านี้มอบความคงทน, ความสวยงาม, และมูลค่าที่เพิ่มขึ้นตามเวลา ดังนี้:

1. ความทนทานและความคงทน

• ไม่ต้องกลัวปลวกและศัตรูไม้: ไม้สักมีน้ำมันธรรมชาติที่ช่วยป้องกันปลวกและแมลงศัตรูไม้อื่นๆ ทำให้โต๊ะไม้สักเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการใช้งานในระยะยาว
• ความแข็งแรงและความทนทานต่อการยืดหดตัวของไม้: ไม้สักเก่ามีความแข็งแรงสูงและมีการยืดหดตัวน้อยเมื่อเทียบกับชนิดไม้อื่น ลดความเสี่ยงของการแตกร้าวหรือเสียรูปทรง

2. ความสวยงามและความเป็นเอกลักษณ์

• ลายไม้ที่สวยงาม: ไม้สักเก่ามีลายไม้ที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ เพิ่มความหรูหราและความอบอุ่นให้กับพื้นที่ใช้สอย
• การเพิ่มมูลค่าตามเวลา: ไม้สักเก่ามีความพิเศษในการเพิ่มมูลค่าตามเวลา ไม่เพียงแต่ในแง่ของความทนทาน แต่ยังรวมถึงความสวยงามที่เพิ่มขึ้นเมื่อผ่านการใช้งาน

3. การปรับใช้กับพื้นที่ต่างๆ

• ห้องครัวและห้องกินข้าว: โต๊ะกลมไม้สักเหมาะสำหรับการใช้งานในห้องครัวและห้องกินข้าว ทั้งในแง่ของความคงทนและความสวยงาม สามารถเข้ากับสไตล์การตกแต่งต่างๆ ได้ง่าย
• ห้องโถง: โต๊ะกลมไม้สักสามารถเป็นจุดศูนย์กลางของห้องโถง สร้างความสวยงามและความหรูหราให้กับพื้นที่